จับตานโยบายสื่อ-โทรคมฯ

มติชน ฉบับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่อาคารวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) เปิดตัวโครงการติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคม (NBTC Policy Watch) โดยมี นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธาน มสช. กล่าวปาฐกถาเรื่อง "การปฏิรูปนโยบายสื่อและโทรคมนาคมในประเทศไทย" ว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 บัญญัติให้คลื่นความถี่เป็นสมบัติสาธารณะของชาติ แต่ด้วยความไม่ชอบมาพากลในระบบ ทำให้ผลประโยชน์ไม่เอื้อต่อสาธารณะ ควรสร้างจิตสำนึกใหม่ มีจิตสาธารณะ จิตสำนึกของความเป็นพลเมืองรับผิดชอบต่อส่วนรวม ภาควิชาการต้องศึกษาและวิจัยระบบที่ซับซ้อน และคลี่ความซับซ้อนออกมาให้สาธารณะเข้าใจ เพื่อสร้างพลังให้กับสาธารณะ

ต่อมามีสัมมนาในหัวข้อ "การจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับดูแลทีวีดิจิตอล:โอกาส ความท้าทาย และอุปสรรค ในการปฏิรูปสื่อ" โดย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีเรื่องเทคโนโลยีใหม่อย่าง ทีวีดิจิตอล ต้องออกแบบ 12 ช่องทีวีสาธารณะให้เป็นสาธารณะจริงๆ ทางฝ่ายประชาสังคมเสนอให้จัดประกวดคุณสมบัติ แต่เสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ให้ยึดตามกฎหมายในการตัดสิน

นางนวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สาธารณชนรับรู้แค่เรื่องการประมูลคลื่นความถี่ แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องการจัดการโครงข่ายว่าจะประมูล หรือกำหนดราคาอย่างไร เพราะค่าโครงข่ายเป็นสิ่งที่ทั้งทีวีสาธารณะและทีวีธุรกิจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ควรทำประเด็นนี้ ให้เป็นประเด็นสาธารณะ เพราะเรื่องโครงข่ายเป็นสิ่งที่สำคัญที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในอนาคต ในต่างประเทศมี การออกกฎหมายห้ามผู้ถือครองโครงข่าย จัดทำรายการอย่างชัดเจน ไทยก็ควรมีกฎนี้ด้วย เพราะการถือโครงข่ายมักเป็นกิจการผูกขาด