โดย : สยามธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ขยายระยะเวลาคืนคลื่น 1800 MHz เยียวยาผู้บริโภค หรือใคร?
สยามธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
นายวรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง โครงการติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคมแสดงความเห็นคัดค้านกรณีขยายอายุการให้บริการหลังจากหมดอายุสัมปทานของคลื่นความถี่1800 MHzในวันที่ 15 กันยายน 2556 ซึ่งบริษัท ทรูมูฟ จำกัด (ทรูมูฟ) และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด(ดีพีซี)ใช้ให้บริการกับลูกค้าผ่านสัญญาสัมปทานที่ทำขึ้นกับบริษัทกสทโทรคมนาคมจำกัดว่ากสทช.มีภารกิจในการนำคลื่นที่หมดอายุสัมปทานแล้วมาจัดสรรใหม่ด้วยวิธีการประมูลเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานซึ่งขาดความโปร่งใสและสร้างสนามแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมไปสู่ระบบใบอนุญาต ซึ่งมีความโปร่งใสและสร้างกฎกติกาการแข่งขันที่เท่าเทียมกว่า
ดังนั้นการนำคลื่นความถี่กลับมาจัดสรรใหม่ในระบบใบอนุญาตตามเจตนารมณ์ของกฎหมายไปพร้อมๆกับการคุ้มครองผู้บริโภคในกระบวนการเปลี่ยนผ่าน จึงเป็นภารกิจที่ กสทช. ต้องทำให้สำเร็จลุล่วงทั้งคู่ไม่ใช่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งกสทช.โดยคณะกรรมกิจการโทรคมนาคม(กทค.)สามารถนำคลื่นกลับมาจัดสรรใหม่ไปพร้อมๆกับป้องกันผู้บริโภคจากเหตุการณ์ซิมดับได้โดยไม่ต้องประวิงเวลาคืนคลื่นออกไป ซึ่งไม่มีฐานอำนาจทางกฎหมายใดๆที่อนุญาตให้ทำได้
โดย กทค. มีเวลาเตรียมการเกือบ18เดือนก่อนวันสิ้นสัญญาสัมปทานทำการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าและขยายขีดความสามารถในการให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่(ย้ายค่ายเบอร์เดิม) ลูกค้าส่วนใหญ่บนคลื่น 1800 MHzจะสามารถย้ายบริการได้ทันก่อนวันหมดอายุสัมปทานไม่ว่าจะย้ายไปคลื่นความถี่อื่นของผู้ให้บริการเดิมหรือย้ายไปค่ายอื่นก็ตามและหากกทค. สามารถจัดประมูลล่วงหน้า6เดือนก่อนสัญญาสัมปทานสิ้นสุดผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ว่ารายเก่าหรือรายใหม่ก็สามารถเตรียม การเพื่อรองรับลูกค้าคงค้างในระบบให้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องทันทีโดยไม่เกิดเหตุการณ์ "ซิมดับ"นอกจากนี้การตัดสินใจของกทค.ใช้มาตรการขยายเวลาการให้บริการคลื่น1800 MHz ออกไปเพื่อลดผลกระทบกับผู้บริโภคให้สามารถใช้บริการได้ต่อเนื่องก็มีความหมายไม่ต่างจากการ"จับผู้บริโภคเป็นตัวประกัน" โดยราคาที่สังคมต้องจ่ายคือโอกาสในการสร้างมาตรฐานที่ดีสำหรับการเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานไปสู่ระบบใบอนุญาต โอกาสในการสร้างการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมในกิจการโทรคมนาคมโอกาสที่ประเทศชาติเสียไปจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารและโอกาสที่ผู้บริโภคเสียไปจากการได้ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆอย่าง 4G ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน
นายวรพจน์กล่าวว่ามาตรการขยายระยะเวลาคืนคลื่นดังกล่าวอาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การเยียวยาผู้บริโภคเพราะผู้บริโภคไม่เสียหายอะไรตราบเท่าที่แนวทางที่ใช้สามารถทำให้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องแต่เป็นการเยียวยาผู้ประกอบการรายเดิมจากการสูญเสียฐานลูกค้ามากกว่าโดยเฉพาะทรูมูฟ ซึ่งมีเวลาในการรักษาฐานลูกค้ารายใหญ่บนคลื่น 1800 MHz กว่า 17 ล้านรายออกไป รวมทั้งอาจได้ประโยชน์จากการไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานและค่าธรรมเนียมรายปีอีกด้วย
กสทช.มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคจากกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปพร้อมๆกับการนำคลื่นกลับมาจัดสรรใหม่ด้วยวิธีการประมูลตามที่กฎหมายกำหนด หน้าที่ทั้งสองคือสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเกิดขึ้นโดยราบรื่น การจับผู้บริโภคเป็นตัวประกันทั้งที่เป็นผลพวงจาก "การละเลยต่อหน้าที่" ของตนสะท้อนให้เห็น"ความด้อยประสิทธิภาพ"และ "ความไม่จริงใจ"ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบใบอนุญาตของกทค.ซึ่งเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของ "ผู้บริโภค"หรือของ "ผู้ประกอบการ" กันแน่

